วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ทัศนะคติในเชิงบวกและทัศนคติในเชิงลบของผู้บริโภค

คงเป็นเรื่องที่น่าพุดหงิดและน่าปวดหัวไม่น้อย...สำหรับบรรดาผู้ที่มี “ทัศนะแบบวิทยาศาสตร์” ในการที่ไม่อาจนำเอา “คำตอบสำเร็จรูป” ที่ ได้รับมาจากบรรดาผู้ที่ต้องการเปลี่ยนทัศนะของผู้คนให้เป็นวิทยาศาสตร์ ไปตอบคำถามได้อย่างมั่นอก-มั่นใจได้ว่า...“โลกๆ นี้...มีอายุเท่าไหร่กัน แน่.แต่สำหรับ “ผู้สื่อข่าววิทยาศาสตร์” อย่าง  บาร์โหนเพิ่มกำลัง “ริชาร์ด มิลตัน” เขา เสนอคำตอบที่ฟังดูพื้นๆ ง่ายๆ แต่ก็อาจทำให้เราไม,ต้องเสียเวลาดิ้นทุรน ทุรายอยู่ภายใต้กรอบความคิดในลักษณะใดลักษณะหนึ่งจนอาจสับสน วุ่นวายมากเกินไปนัก คำตอบที่ว่านั้นก็คือ... “สำหรับข้อเท็จจริงใน ปัจจุบันนี้...เราไม่อาจบอกได้อย่างมั่นอกมั่นใจว่าโลกนี้มีอายุเท่า ไหร่...บอก1ได้แต่เพียง1ว่า...'โลกนี้มีอยู่ก่อนที,ประวัติศาสตร์'ของมนุษย์และ สิ่งมีชีวิตจะเริ่มต้นขึ้นมา...”แต่อีกนั่นแหละ...ถึงแม้ว่าเราจะไม่พยายามหาทาง “กำหนดอายุ โลก” กันให้ชัดๆว่ามันจะมีอายุเท่าไหร่กันแน่ แต่ถ้าหากเรายังคงยึดติด อยู่กับ “คำตอบสำเร็จรูป” ในแนวนี้ต่อไป การด้นหาประวัติความเป็นมา ของมนุษย์และสิ่งมีชีวิต ก็ยังคงจะต้องทำให้เราหงุดหงิดปวดหัวกันอีกต่อ ไปเมื่อจะต้องตอบคำถามว่า...สิ่งมีชีวิต...เกิดขึ้นมาได้อย่างไร...???”สำหรับผู้ที่ยึดมั่นในทฤษฎี “ดารวิน” แล้ว...คำตอบนี้อาจจะไม่ถึง กับเป็น “สูตรสำเร็จ” ซึ่งอาจไม่ใช่เพราะไม่ต้องการที่จะตอบ แต่อาจเป็น เพราะว่าการให้คำตอบต่อคำถามประเภทนี้...มันค่อนข้างยากเกินกว่าที่ จะไปดึงเอาข้อผูลทางวิทยาศาสตร์ใดๆ มาทำเป็น “สูตรสำเร็จ” กันได้ ง่ายๆ...เมื่อจำเป็นจะต้องตังหลักเอาไว้ว่า...“สิ่งมีชีวิตและมนุษย์นั้น...ไม่ ได้เกิดขึ้นมาโดยการเนรมิตสร้างจากพระผู้เป็นเจ้า” หรือไม่ได้เกิดจากพลัง อำนาจวิเศษที่อยู่เหนือธรรมชาติใดๆ เลย โอกาสที่จะทำให้อุบติการณ์ของ สิ่งมีชีวิตปรากฏตัวขึ้นมาในโลกนี้ก็กลายเป็นเรื่องที่ยุ่งยากเอาการ...ข้อสมมุติฐานในเรื่อง “สิ่งมีชีวิตเริ่มแรกอาจจะมาจากดาวเคราะห์ ดวงอื่น” ไม่ว่าจะปลิวมาเป็นละอองแบบ “สปอร์” หมุนคว้างลงมาจาก อวกาศ หรือติดมากับก้อนอุกาบาตลูกใดลูกหนึ่ง แม้นว่าจะมี “นัก วิทยาศาสตร์” ด้วยกันเอง อย่างเช่นนักฟิสิกส์เคมี ซาวสวีเดนเคยนำเสนอ เอาไว้ในปีค.ศ.1980 แต่แนวคิดเซ่นนี้...นอกจากมันจะหาคำตอบทาง วิทยาศาสตร์มารองรับกันไม่ได้ถนัดๆ แล้ว มันยังอาจจะทำให้จินตนาการของผู้คนถูกชักนำออกไปสู' “สิ่งเหนือธรรมชาติที่อยู่ในอวกาศ” หรือที่อยู่ “นอกโลก” บาร์โหนเพิ่มกล้าม ขึ้นมาก็ไม่แน่...??? กระบวนการหาคำตอบที่จะขจัด “แนวคิด ที่ไม่เป็นวิทยาศาสตร์” ออกไปจากวงการวิทยาศาสตร์หรือเพื่อไม่ให้ “แปด เปีอนวงการวิทยาศาสตร์” ได้ดีที่สุด ก็คงจะหนีไม่พ้นการควานหาคำตอบ ที่จะทำให้ “สิ่งมีชีวิต...อุบัติขึ้นมาจากสิงที่ไม่มีชีวิต” โดยอาศัย “ความ บังเอิญ” เป็นพื้นฐานนั่นเอง ความพยายามควานหาคำตอบในลักษณะ เช่นนี้จึงถูกดำเนินมาอย่างต่อเนื่องและเต็มไปด้วยความเอาจริงเอาจังมา โดยตลอด...แต่นับเป็นพันๆ ปีมาแล้วตั้งแต่ยุคกริก มาจนถึงยุคของ “อเล็กซาน เดอร์ไอ. โอปาริน” นักชีวเคมีซาวรัสเชีย ที่ถือได้ว่าเป็นผู้ที่วางรากฐานคำ อธิบายในเรื่องสิ่งมีชีวิตก่อเกิดมาจากสารเคมีที่ไม่มีชีวิตได้อย่างเป็นหลัก เป็นฐาน โดยการนำเสนอทฤษฎีที่ว่าด้วย “สิ่งมีชีวิตเกิดจากการ เปลี่ยนแปลงทางเคมีอย่างช้าๆ” ในช่วงปีค.ศ.1942 และมาจนกระทั่งถึง ทุกวันนี้...ความพยายามทดสอบ,ทดลองค้นคว้าข้อมูลสนับสนุนเพื่มเติม ในห้องปฏิบัติการ,การตั้งข้อสมมุติฐาน,การสร้างจินตนาการแบบ นวนิยายวิทยาศาสตร์ในทุกรูปแบบมารองรับ แต่การให้คำตอบ-คำ อธิบายในแนวนี้ ยังไม่สามารถให้ข้อสรุปได้ถนัดชัดเจนเลยว่าเหตุใด “สาร เคมีไม่มีชีวิต”ทั่งหลาย มันจึงสามารถ “ประกอบตัวเอง” ให้เกิดมาเป็นรูป ร่าง เป็นกระบวนการที่มีความสลับซับช้อนหรือกลายเป็น “สารเคมีที่มีชีวิต” ขึ้นมาได้โดย “ความบังเอิญ” หรือโดยไม่จำเป็นจะต้องมีบางสิ่งบางอ อุปกรณ์ฟิตเนส ย่าง กำกับอยู่เบื้องหลัง...??? อย่างที่ “ฮาโรลด์ โมโรวิตซ์” นักชีววิทยารายหนึ่ง ผู้เขียนหนังสือเรื่อง “Beginning Of Cellular Life” ถึงกับเคยตั้งคำถามออก มาดังๆว่า...“เป็นไปได้อย่างไรที่สสารสามารถจัดระเบียบด้วยตัวของมัน เอง...แล้ววิวัฒนาการเป็นโมเลกุลที่ซับซ้อนของสิ่งมีชีวิต ภายใต้ข้อจำกัด ต่างๆ ของสภาวะทางฟิสิกส์และชีวเคมีในยุคดึกดำบรรพ์ โดยที,ไม่มีล้วน

บาร์โหน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น